แก้วมังกร

แก้วมังกร...ชุ่มฉ่ำ มากประโยชน์


นอกจากแก้วมังกรจะเป็นผลไม้ของฤดูกาลแล้ว ยังเข้ากับธีมของฉบับนี้ อีกต่างหาก เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินบี 1 บี 2 บี 3 และวิตามินซี มีแคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และกากใยสูงเมล็ดสีดำที่กระจายอยู่ทั่วเนื้อของแก้วมังกรยังมีไขมันไม่อิ่มตัว ซึ่งเคยมีความเชื่อผิด ๆ ว่าเป็นสารก่อมะเร็ง แต่แท้จริงเจ้าเมล็ดสีดำนี้ช่วยบำรุงผิวพรรณ กระดูกและฟัน รวมทั้งสายตาอีกด้วย
แก้วมังกรเป็นผลไม้รูปร่างกลมรีขนาดใหญ่ห่อหุ้มด้วยเปลือกสีชมพูเข้ม มีทั้งเนื้อสีขาวและสีแดง โดยมีเมล็ดคล้ายงาหรือเม็ดแมงลักกระจายอยู่ทั่วไป เนื้อสัมผัสชุ่มฉ่ำให้รสหวานอ่อนๆ จะใช้เป็นวัตถุดิบในการปรุงเมนูต่าง ๆ กินหลังมื้อหรือรองท้องก่อนถึงมื้อหลักก็ได้เช่นกันสำหรับสาวๆ ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก แก้วมังกรเป็นทางเลือกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะนอกจากมีใยอาหารมากแล้ว ยังอยู่ท้องและมีแคลอรีต่ำอีกด้วย

ฤดูกาล : กรกฎาคม - ตุลาคม วิธีการเลือกซื้อ-การเก็บ : ควรเลือกผลแก้วมังกรที่ไม่อ่อนหรือแข็งจนเกินไป เปลือกสีแดงสดทั่วทั้งผล เนื้อเต็มไม่ช้ำหรือมีรอยบุบ สำหรับรสชาตินั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละพันธุ์ พันธุ์เนื้อขาวเปลือกแดงให้รสหวานอมเปรี้ยวหรือหวานจัด พันธุ์เนื้อขาวเปลือกเหลืองให้รสหวาน ผลเล็กมีเมล็ดขนาดใหญ่และน้อยกว่าพันธุ์อื่น ส่วนพันธุ์เนื้อแดงเปลือกแดงหรือพันธุ์คอสตาริกาผลเล็กกว่าพันธุ์เนื้อขาวเปลือกแดง แต่รสหวานกว่า
กินแบบไหน : วิธีรับประทานก็ง่ายๆ แค่ผ่าครึ่งตามแนวยาวแล้วลอกเปลือก หรือใช้ช้อนตักก็รับประทานได้ทันที หรือจะนำไปทำเป็นเครื่องดื่ม ใส่สลัด ยำ หรือขนมหวานก็ได้

ที่มา https://plus.google.com/u/0/communities/100859738997473410030
แก้วมังกร แก้วมังกร Reviewed by @monrudee on 7:38 AM Rating: 5
Break
Powered by Blogger.